ไม้

ไม้ที่มีสำหรับงานก่อสร้างถูกแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คร่าว ๆ ดังนี้ โดยยึดเอาจากค่าความแข็งแรงของตัวไม้เอง และความทนทานตามธรรมชาติของไม้แต่ละประเภท

1. ไม้เนื้อแข็ง

เป็นไม้ที่มีความแข็งแรง และทนทานสูง ซึ่งไม้บางชนิดสามารถมีอายุการใช้งานได้สูงถึง 6 ปี เราลองมาดูกันว่าไม้เนื้อแข็งที่ว่า มีอะไรกันบ้าง
ไม้เต็ง จัดเป็นไม้ขนาดกลางถึงใหญ่ เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อนจนถึงแก่แกมแดง เนื้อของไม้เต็งจะค่อนข้างหยาบ แต่แข็งแรง เหนียว และมีความทนทานสูง เหมาะกับการใช้ทำหมอนรางรถไฟ เครื่องมือกสิกรรม โครงสร้างอาคาร เช่น เสา วงกบประตู วงกบหน้าต่าง โครงหลังคา
ไม้รัง เป็นไม้ที่มีขนาดกลางถึงใหญ่ มีเนื้อไม้สีน้ำตาล อมเหลือง ไม้รังมีความแข็งแรง และทนทานมาก เลื่อยไสค่อนข้างยาก เหมาะกับงานทำเสา งานโครงสร้างอาคาร หมอนรางรถไฟ และเครื่องมือกสิกรรม
ไม้แดง เป็นไม้ขนาดใหญ่ มีสีน้ำตาลอมแดง นอกจากความแข็งแรง ทนทานที่มีมาแล้วไม้แดงยังมีความสามารถในการต้านไฟด้วย และข้อดีอีกอย่างสำหรับไม้แดงคือ แทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องปลวกที่จะมาคอยกัดแทะ ด้วยความที่ไม้แดงเป็นไม้ที่มีความแข็งมาก เมื่อเกิดความชื้น หรือร้อนเกิดขึ้น ไม้แดงอาจจะขยายตัวจนทำให้เกิดความเสียหายกับกำแพงได้ หรือกำแพงแตกได้
ไม้ตะเคียนทอง จัดเป็นไม้ใหญ่ และมีความสูงมาก เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอมเหลือง ในตัวเนื้อไม้เองมักมีเส้นสีขาวผ่าน ซึ่งเส้นสีขาวนี้เป็นท่อน้ำมันยาง เนื้อไม้มีความละเอียดปานกลาง แข็งแรง เหนียว ทนทาน ไม่ต้องกังวลเรื่องปลวก เนื่องจากไม้ตะเคียนทองชนิดนี้ ทนปลวกดี เหมาะกับงานก่อสร้างอาคาร และหมอนรางรถไฟ
ไม้ตะแบก เป็นไม้ใหญ่ เนื้อไม้สีน้ำตาลอมเทา ไม้ตะแบกนี้มีเนื้อละเอียดในระดับปานกลาง มีความแข็งแรง เหนียว ทนทาน เหมาะกับการใช้ทำเสา ทำเรือ แพ เกวียน แต่อยากจะนำไปทำเครื่องเรือนก็ได้ลายไม้ที่สวยมาก
ไม้มะค่าแต้ จัดเป็นไม้ขนาดกลางถึงใหญ่ เนื้อไม้มีสีน้ำตาลอ่อนถึงสีน้ำตาลแก่ เนื้อค่อนข้างหยาบแต่สม่ำเสมอมีความแข็งแรง เหนียว ทนทาน ทนปลวกได้ดี เลื่อยไสตกแต่งยาก เป็นไม้ที่เหมาะสำหรับใช้ในการก่อสร้างต่างๆ ทำหมอนรางรถไฟ เกวียน เครื่องไถนา และเครื่องเรือน
ไม้ประดู่ เป็นไม้ใหญ่ เนื้อไม้สีแดงอมเหลืองถึงสีแดง อย่างสีอิฐแก่ บางต้นมีลวดลายสวยงามมาก เนื้อละเอียดปานกลาง แข็งแรง เหนียว ทนทาน เหมาะใช้ในการก่อสร้าง ทำเกวียน เครื่องเรือนที่สวยงาม

2. ไม้เนื้อแข็งปานกลาง

เรามาดูกันว่าไม้เนื้อแข็งปานกลางมีอะไรกันบ้าง
ไม้สัก จัดเป็นไม้ขนาดใหญ่ เนื้อไม้สีเหลืองทอง นานเข้าจะมีสีน้ำตาลอ่อนถึงแก่ มีกลิ่น มีน้ำมันในตัว ไม้สักเป็นไม้ที่ทนทานที่สุด หมดปัญหากับปลวก มอดแน่นอน เหมาะกับการนำไปตกแต่ง แกะสลัก นิยมนำไปใช้ทำเครื่องเรือน ทำบานประตู หน้าต่าง เตียงนอน
ไม้กระบาก หรือไม้กะบาก เนื้อไม้มีเหลืองนวล ถึงน้ำตาลแข็ง เหนียว สามารถเลื่อยไสได้ง่าย แต่อาจจะไม่ค่อยดีกับช่างเท่าไหร่ เนื่องจากเนื้อไม้เป็นลักษณะเนื้อทราย จึงทำให้กัดคมเครื่องมือของช่างได้ง่าย ๆ แต่ไม้กระบากมีข้อดีคือ เมื่อถูกน้ำแล้วไม่บิดงอ หรือโก่ง ดังนั้นจึงเหมาะกับการนำไปทำเก้าอี้ โต๊ะ กล่อง หรือลังสำหรับใส่ของ
ไม้นนทรีย์ เป็นไม้ขนาดกลาง เนื้อไม้มีสีชมพูอ่อน ถึงน้ำตาลอ่อน เนื้อไม้ค่อนข้างหยาบ แต่สามารถเลื่อยไสตกแต่งง่าย เหมาะกับการนำไปทำพื้น เพดาน ฝา ภาชนะใส่ของต่าง ๆ

3. ไม้เนื้ออ่อน

ด้วยชื่อว่าเป็นไม้เนื้ออ่อน แน่นอนความทนทานของไม้ประเภทนี้ก็ลดน้อยลงไปด้วย โดยประมาณ 2 ปี เรามาดูกันว่าไม้เนื้ออ่อนนี้ มีอะไรกันบ้าง
ไม้ยาง ลักษณะต้นเป็นไม้ที่ค่อนข้างสูง เนื้อไม้มีสีแดง หรือน้ำตาลหม่น ๆ เหมาะกับการใช้งานในร่ม เช่น ใช้ทำไม้ฝา ไม้คร่าวฝ้าเพดาน คร่าวฝา
ไม้กระท้อน จัดว่าเป็นไม้ขนาดใหญ่ เนื้อไม้มีสีแดง เนื้อค่อนไปทางหยาบ ๆ หากใช้ในร่มจะมีความทนทานพอควร แต่ไม้กระท้อนนี้มีข้อเสียคือ หดตัวค่อนข้างมาก
ไม้ต้นมะพร้าว เป็นเนื้อไม้ที่มีความหนาแน่นค่อนข้างมาก ใช้งานสำหรับเป็นโครงสร้างรองได้ โดยจะมีความหนาแน่นที่เปลือกมากกว่าด้านในลำต้น